อานิสงส์การบริจาคโลงศพ
หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ตอบปัญหาธรรม
ผู้ถาม :- “การบริจาคโลงศพ ให้คนตายที่ไม่มีญาตินั้นมีบุญมาก อันนี้จริงไหมครับ..?”
หลวงพ่อ :- “ตามธรรมดาเราถ้าป่วย ญาติต้องรักษาสิ้นเงินสิ้นทองมากอยู่แล้ว ถ้าฐานะไม่ดี ถ้าตายไปแล้วแกเดือดร้อนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโลงศพนี่หนักมาก ถ้าคนจน ๆ สักหน่อยนะ ก็ต้องไปซื้อไม้ยางมา แล้วมาต่อเอง
ทีนี้สำคัญคนต่อโลง ถ้าไม่มีเหล้ากิน เขาต่อโลงไม่ได้ ถ้ากินเมาเกินไป ต่อโลงไม่ได้อีก นี่เป็นเรื่องจริง ๆ นะ เมาเกินไปก็งอแง ๆ ทำท่าจะต่อไม่เสร็จ
ทีนี้คนเขามีทุกข์จากการรักษาพยาบาล เพราะเงินมันหมดแล้ว ใช่ไหม… ต่อมาถ้าเกิดตายก็ต้องใช้เงินใหม่ อาจจะต้องขอยืมเขา เป็นหนี้เป็นสินเขา ถ้าเราให้อย่างนี้ สร้างความสุขให้แก่เขามาก มันเป็นปัจจัยของความสุข
แต่ว่าเคยพบมาหลายรายแล้วนะ ถ้าเขาอุทิศโลงศพแล้วรวยทุกราย นี่เรื่องจริงๆ นี่พบมาจริงเลยนะ อันดับแรกเขาต่อโลงไว้ที่บ้าน ๔-๕ ลูก ต่อๆมาก็เพิ่มหลายลูกขึ้น แล้วก็มีคนร่วมหุ้นส่วน และฐานะเขาก็ดีขึ้นเรื่อยๆ นี่เคยเห็นมาแล้วนะ คือเอาผลปัจจุบัน เวลานั้นเขามีความทุกข์ยาก ญาติเขาตาย เจ้าภาพหนักใจมาก ไม่มีเงินก็ต้องกู้เขา สถานที่กู้ก็ยังไม่แน่จะไปกู้ได้ที่ไหน หนักใจไม่น้อยเลย”
ผู้ถาม :- “ถ้าชาติปัจจุบันมีผลเป็นอย่างนี้ แล้วถ้าชาติหน้าล่ะครับ…?”
หลวงพ่อ :- “ชาติหน้าไปก็มีโลงเยอะ สร้างบ้านด้วยโลงผี”
ผู้ถาม :- “โอ้โฮ..ไม่ไหวนะหลวงพ่อ”
หลวงพ่อ :- “ไหว…แน่ ทำฝากุฏิด้วยโลงผียังไหวเลย เมื่อสมัยบวชปีแรก ตามปกติฉันชอบไปนอนที่ศาลาปรกที่ป่าช้า มันไกล เงียบดี หลวงพ่อปานท่านขอโลงผีไว้ ๓๐ ลูกกว่า โลงไม้สักนะ เวลาที่เขาจะเผา เขาก็เอาโลงไม้ยางไปแลก เก็บโลงไม้สักไว้ เผื่อคนตายจะได้ใช้ทันทีทันใด
ทีนี้ศาลาปรกที่ไปพัก พอหน้าฝนมันก็สาด ก็ให้พระช่วยขนโลงมาทำฝา เหลือจากนั้นก็ทำเตียงนอน ทำโต๊ะเขียนหนังสือ ทำเก้าอี้ เอาไปวางข้าง ๆ
มีวันหนึ่งจะมีงานวัด พวกแม่ค้าเค้าก็ไปจองที่ขายของ เราก็จุดตะเกียงแดงที่ศาลาปรก พอแกเห็นว่าเป็นพระ แกก็ไปกัน ๒๐ คนได้ พอไปถึงเขาก็ไปยืนคุย มีผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ยืนคุยไปคุยมา
ยายคนหนึ่งแกก็ถาม “นี่อะไร” ชี้ไปที่ที่นั่ง บอก “โลงผี”
ถาม “นี่อะไร” ชี้ไปที่โต๊ะ บอก “โลงผี”
“นี่อะไร” ชี้ไปที่เตียงนอน บอก “โลงผี”
พอ ๓ ผีเท่านั้นแหละ วิ่งอ้าวเลย แกวิ่งตั้งตัวไม่ติดเลย ก็นึกสงสัย แกวิ่งทำไมนะ ไอ้เราก็คน แกวิ่งไปถึงบริเวณกุฏิพระ แกก็ถามพระว่า “ที่ป่าช้าน่ะ พระคนหรือพระผี…?” เรากลายเป็นผีไปเสียนี่
พอรุ่งขึ้นเช้าไปบิณฑบาตกลับมา ยายพวกนั้นเห็นหน้า “ฮั่นแน่..เมื่อคืนนึกว่าผี” แหม..ก็คุยกันตั้งนานคุยได้ พอเห็นโลงผีวิ่งเลย แต่ความจริงโลงผีมีไว้ดีนะ ถ้าบังเอิญขโมยกลัวผี ไม่ย่องเข้าไปลักหรอก ถ้าไปเจอขโมยพวกสัปเหร่อล่ะ…เสร็จนะ”
ผู้ถาม :- “บางคนเขาก็ไม่กลัวครับ เขาเอาโลงไปไว้ที่บ้าน เป็นโลงศพพ่อโลงศพแม่ อย่างนี้จะเป็นอะไรไหมครับ…?”
หลวงพ่อ :- “จะเป็นไรไป ดี…ก็ไม่เห็นเสียหายอะไรนี่”
ผู้ถาม :- “เด็กเล็กมันกลัวครับ”
หลวงพ่อ :- “เด็กเล็กมันกลัวก็ช่างมัน เด็กใหญ่ไม่กลัวก็แล้วกัน ถ้าเขากลัวจริง ๆ เขาคงไม่เอาไว้ เอาไว้ก็ดีอุ่นดีนะ”
ผู้ถาม :- ?..?..?
หลวงพ่อ :- “อุ่นใจดี ถ้าเขาเอาไว้อย่างนั้น แสดงว่าความกตัญญูกตเวทีเขามีมาก และโลงนั่นใส่ศพพ่อและแม่ใช่ไหม เผาแล้วยังเอาโลงเก็บไว้ พอเห็นโลงทีไรก็นึกถึงพ่อและแม่ จิตกตัญญูมันก็ปรากฏ คนที่มีความกตัญญูกตเวที พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญมาก”
ผู้ถาม :- “ถ้าเป็นผม ก็ใช้วิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ครับ ก็มีอาม่าคนหนึ่งแกตายไป ตอนอยู่ก็ไม่ได้สร้างกุศล พอแกตายไปแล้ว ก็นิมิตไปว่าเห็นแกลำบากมาก ก็เลยทำสังฆทานถวายพระ อยากทราบว่าถวายสังฆทานนี้ผลจะได้หรือเปล่า…หรือจะช่วยอย่างไร แกถึงไม่ลำบาก”
หลวงพ่อ :- “แกมาแสดงตัวให้ปรากฏใช่ไหม…?”
ผู้ถาม :- “ครับ”
หลวงพ่อ :- “ถ้าแกแสดงตัวปรากฎ ทำบุญแล้วอุทิศส่วนกุศล ออกชื่อแกนะได้รับแน่ ถ้าเขาแสดงตัวปรากฎได้ แสดงว่าเขารับได้ ถ้าหากว่าเขาแสดงตัวให้ปรากฏไม่ได้ ก็ยังเป็นปัญหาอยู่นะ อาจจะได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ได้ แต่ถ้าเขาแสดงตัวเขามีโอกาสรับ มั่นใจ แต่อย่าลืมออกชื่อเขานะ…”
หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๒๘-๓๑
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)