อานิสงส์การปฏิบัติภิกษุไข้
หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ตอบปัญหาธรรม
ผู้ถาม :- “ทีนี้อย่างคนป่วยเป็นพระ แล้วเราก็ปฏิบัติดูแลท่าน อานิสงส์จะเหมือนกับปฏิบัติพระพุทธเจ้าไหมครับ เพราะเคยได้อ่านในหนังสือพบ มีตอนหนึ่งว่า ผู้ใดปฏิบัติภิกษุไข้ ก็คล้ายกับปฏิบัติเราผู้ตถาคต”
หลวงพ่อ :- “ก็เหมือนกัน ปฏิบัติพระพุทธเจ้าก็อดนอน ปฏิบัติพระก็อดนอน”
ผู้ถาม :- (หัวเราะ)
หลวงพ่อ :- “แต่ความจริงอานิสงส์มันไม่เท่ากันหรอก เพราะว่าอานิสงส์ของพระพุทธเจ้ากับพระอริยสงฆ์ทั้งหลายไม่เท่ากันอยู่แล้ว ใช่ไหม…ท่านบอกว่าคล้าย ๆ กับปฏิบัติเรา ก็เพราะว่าพระศาสนาจะทรงอยู่ได้ ก็ต้องอาศัยพระสงฆ์ หากว่าทำให้พระสงฆ์อยู่ได้เหมือนกับทำให้พระองค์อยู่ได้ ท่านเปรียบเทียบให้ฟังนะ”
ผู้ถาม :- “แล้วอย่างที่เขาบอกว่าพระอาพาธ หรือพระป่วย ฉันข้าวเย็นได้ ต้องป่วยขนาดไหนครับ…?”
หลวงพ่อ :- “ความจริงป่วยธรรมดา คือ ชิคัจฉา ปรมา โรคา ความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง มันหิวเมื่อไรกินเมื่อนั้น ของร้อนก็ได้ ของเย็นก็ได้ คุณถามข้าวเย็นนี่ คุณไม่ได้ถามเวลา”
ผู้ถาม :- “คือไปเจอที่โรงพยาบาล ตอนเย็นก็เอาเตาไฟฟ้ามานึ่งข้าวเหนียว แล้วก็หลนปลาร้ามาจิ้ม”
หลวงพ่อ :- “ความจริงถ้าพระองค์ไหนป่วย เราก็พยาบาลพระองค์นั้นนะ ถ้าอาหารที่พระป่วยฉัน เราก็ฉันกับพระป่วยได้ น่าจะปฏิบัติบ่อย ๆ นะ”
ผู้ถาม :- “เอ…แล้วไม่เป็นอาบัติหรือครับ…?”
หลวงพ่อ :- “ดูเหมือนเคยพบในหนังสือ ที่ไหนนะ ท่านบอกว่า อนุญาตเฉพาะน้ำข้าวต้มกับน้ำแกงเท่านั้นนะ ไม่ใช่เนื้อนะ เขาเอาข้าวต้มให้เละ แล้วเอามาคั้น แต่ว่าอาจจะมีเนื้อติดอยู่บ้าง แต่มันไม่เป็นก้อนแล้วนะ กับข้าวก็คือน้ำแกง
พออ่านหนังสือฉบับนั้นก็มีความรู้สึกเลยว่า พระพุทธเจ้าท่านมีความรอบคอบจริง ๆ ถ้าปล่อยให้ฉันข้าวเม็ดนี่ไม่รอบคอบ อย่างฉันไม่ได้หม่ำข้าวเย็นมาหลายสิบปี ถ้าฉันเข้าไปเพิ่มโทษอีกคือท้องอืด อ่านหนังสือแล้วก็ไปนั่งใคร่ครวญดูว่าอันไหนมันจะถูก คิดว่าอันนี้แหละถูก เพราะพระท่านไม่พบกับอาหารตอนเย็นมานานใช่ไหม…ระบบการย่อยไม่ดี ถ้าเป็นน้ำนี่ไม่มีโทษ ไม่ต้องรอการย่อย ถ้าเป็นเนื้อนี่ไม่ไหวแน่
ฉันไปโดนเข้าที ฉันป่วยที่โรงพยาบาล ไปเจอพระข้าง ๆ ห้อง นั่งเข้าสมาธิอยู่ข้างตุ่มน้ำ ถามว่า “หลวงน้า เข้าสมาธิเรอะ” บอก “เปล่าครับ” “แล้วทำอะไรล่ะ” “หมอเขาให้กินข้าวตอนเย็น ล่อเข้าไปพุงตื้อเลย” นอนไม่ลงก้มไม่ได้ เป็นฌานข้าวสุกไป นี่เป็นโทษ…เห็นไหม…”
ผู้ถาม :- “เรื่องอย่างนี้นะครับ มีอยู่ครั้งหนึ่งไปทำบุญที่โรงพยาบาลสงฆ์ ตามธรรมดาผมเคยไปถวายเสมอ ๆ เอากระเพาะปลาบ้าง สุกี้ยากี้บ้าง โอวัลตินบ้างไปถวาย วันนั้นพลาดไปยังไงก็ไม่ทราบ พอเข้าไปถึงตึกพระอาพาธก็ประกาศ
“พระคุณเจ้าที่เคารพ ขอนิมนต์เตรียมถ้วยเตรียมชามไว้เจ้าข้า โยมจะเอากระเพาะพระมาถวาย”
พอประกาศไปเท่านั้นแหละ ปรากฎว่าไม่มีพระองค์ไหนหยิบชามเลย ปิดประตูหมดเลย”
หลวงพ่อ :- (หัวเราะ) “ท่านคงนึกนะ เอ…เอากระเพาะพระอะไรมาให้กูวะ สักวันหนึ่งกูคงโดน”
ผู้ถาม :- “เลยวันหลังต้องระวังหนัก”
หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๔ หน้า ๓๒-๓๕
พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง)